4.11.2011

รู้อะไรกันมากเกินไป รู้แล้ว...ต้องปล่อย



รู้อะไรกันมากเกินไป รู้แล้ว...ต้องปล่อย

เวลาคนสองคนคบกัน รู้ใจกัน และรู้เห็นในส่วนที่ไม่ดีของกัน นานวันเข้า ความรู้สึกที่รู้มากเกินไปนั้น มันบ่อนทำลายความรักของคนสองคนให้สั้นลง ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

แปลกแต่จริง ที่การรู้อะไรมากเกินไป ก็ทำให้สีสันของความรักลดน้อยถอยลงไป พอรู้แล้วก็ดักทางกันได้หมด จนมันไม่มีแรงกระตุ้นให้เรารู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ และไม่อยากลุกขึ้นมาทำอะไรพิเศษ ๆ แถมยังจะเผลอใจให้ออกนอกลู่นอกทาง เพื่อหาสีสันใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง โดยหารู้ไม่ว่า นี่กำลังทำให้ "ความรัก" แย่ลงไปกว่าเดิม

หากปล่อยทิ้งไว้นานแบบนี้ คนที่จะทำลายความรักให้พังพินาศเร็วขึ้น ก็คือตัวเราเอง โทษฐานรักเดิมก็ยังทำได้ไม่ค่อยดี แต่ริจะมีสีสันใหม่ ๆ พอใจอยากแสวงหาอะไรใหม่ ๆ มันก็ไม่หยุดนิ่งอยู่ที่คนเดิม ๆ แถมยังมองหน้าคนเดิม ๆ ไม่สนิทใจไปอีกด้วย

การคบกันไปวัน ๆ สุดท้ายก็คือการคบกันไปวัน ๆ หากเราปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ หากใจยังคิดถึงสิ่งเร้าใหม่ ๆ แบบนี้ ใจก็จะไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ และไม่อาจจะอยู่กับคนที่เรารักได้เลย เมื่อใจไม่อยู่กับคนที่เราเลือกแล้วว่าเขาคือ "คนรัก" ความรักก็เป็นเพียงสิ่งสมมุติ ที่เราจำต้องฝืนทนอยู่

สมมุติว่า...ยังรักกันอยู่
สมมุติว่า...ยังมีใจให้กันอยู่
สมมุติว่า...ยังคบกันต่อไปได้อยู่
พอเราอยู่กับสิ่งสมมุติมากเข้า ๆ ใจเราจะร้อน และทนอยู่กับสภาพแบบนี้ไม่ได้เลย

"การรู้อะไรมากจนทำให้สีสันหมด แถมยังหมดแรงกระตุ้นความชุ่มฉ่ำใจ เราต้องทำเป็นไม่รู้อะไรเสียบ้าง"

อย่ากักขังสิ่งที่เราได้เรียนรู้จนหมดสิ้น แล้วเก็บไว้กับัว มันจะหนักหัวเปล่า ๆ เราต้องปล่อยทิ้งไป เพื่อที่เราจะได้เป็นแก้วน้ำเปล่าหนึ่งใบ ที่รอการเติมเต็ม เพราะความรักต้องการการเติมเต็ม มากกว่ารู้ไส้รู้พุงแล้วไม่คิดเติมอะไรให้กันอีก

เห็นคู่รักที่อยู่กันได้นานหลายคู่ เขาก็ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรมากมาย รู้ไส้รู้พุงกันหมด แต่ก็ยังอยู่กันได้ เพราะเขาทั้งคู่เชื่อว่าจะทำให้ความรักมันยังไปต่อของมันได้ และเมื่อเห็นสีสันอื่น ๆ เป็นเพียงแค่สิ่งล่อตา ที่ล่อลวงเอาใจของคนสองคนไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

หากใครกำลังรู้สึกเฉย ๆ กับคนรัก และอยากจะโผบินออกไปบนโลกกว้าง ให้นึกเสียว่ามันไม่ใช่เรื่องประหลาด มันก็เป็นธรรมดาของคนที่ไม่อยากหยุดนิ่งอยู่กับที่ อยู่ที่ไหนนาน ๆ เราก็เบื่อ อยู่กับใครนาน ๆ เราก็หน่ายสีสันของชีวิตหายไปตามกาลเวลา ขนาดรูปถ่ายนานเข้าสียังซีดจาง แล้วนับประสาอะไรกับใจคน

แต่ "ใจคน" นี่แหละ ที่ทำร้าย "ใจของอีกคน" ได้โดยง่าย ลองคิดดูว่ามันจะใจร้ายกับเขามากเกินไปหน่อยไหม หากเรารู้อะไรของเขามากจนไม่อยากจะรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว ใจต้องมองให้เห็นด้านดี ๆ อีกด้านของเขาเหนือกว่า อะไรที่เรารู้ ๆ กันอยู่แล้ว มันอาจจะมีอะไรบางอย่างที่เรายังไม่รู้ก็เป็นได้ อะไรที่เรารู้สึกว่าหมดสนุก ไม่มีอะไรน่าค้นหา บางทีมันอาจจะยังมี เพียงแต่คนสองคนต้องช่วยกันกระตุ้นมันให้ตื่นขึ้นมา

"ตื่นขึ้นมา เพื่อจะพบว่าตัวเองได้ปล่อยสิ่งที่รู้ให้ไหลไปกับสายน้ำ และมีเครื่องหมายคำถามแปะไว้ที่ใบหน้าของเขา เพื่อที่เราจะได้อยากค้นหา สนุกกับการค้นหา และได้เจออะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลา จากคนรักคนเดิม"

No comments:

Post a Comment