4.11.2011

เทรนด์ใหม่ของชีวิตคู่ แห่งศตวรรษที่ 21



เทรนด์ใหม่ของชีวิตคู่ แห่งศตวรรษที่ 21

ชีวิตคู่กึ่งอิสระ

วิถีชีวิตแต่งงานที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ไม่ได้เป็นหลักประกันความมั่นคงในความรัก และยึดมั่นต่อพันธะสัญญาอีกต่อไป หลายคู่ได้ค้นพบเส้นทางการร่วมชีวิตแบบใหม่ ที่สามารถผสมผสานรักแท้กับเสรีภาพส่วนบุคคลไว้ด้วยกัน จนกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่มาแรงแซงโค้งชีวิตคู่แบบดั้งเดิม...

นี่คือ "ชีวิตคู่กึ่งอิสระ" (Semi-Detached Couple)

"ฉันทำงานเป็นที่ปรึกษาการจัดการบริหาร ทำงานวันละ 12 ชั่วโมง ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพฤหัสฯ หลังจากเลิกงานฉันจะกลับบ้าน ทำอาหารเย็นให้ตัวเอง จากนั้นก็จะพักผ่อนบนโซฟาตัวโปรด จิบไวน์ ฟังเพลงที่ชอบหรือดูหนังเรื่องโปรดคนเดียว ไม่ต้องพูดกับใครเลย..."

"เมื่อถึงวันศุกร์จะเป็นวันที่ฉันจะพบกับคู่รัก เขาเป็นครู และทำงานหลังจากเลิกงานประจำที่บาร์หรือภัตตาคาร หลังจากนั้นเราจะไปที่บ้านของเขาหรือของฉันก็ได้ เพราะบ้านของเราอยู่ห่างกันแค่ขับรถ 15 นาที เราจะใช้ชีวิตร่วมกันตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์ ใช้เวลาร่วมกันเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ เจอเพื่อน ๆ ออกไปดูหนัง และมีเซ็กซ์ด้วยกัน และเมื่อถึงวันจันทร์เราก็แยกย้ายไปทำงาน เลิกงานต่างคนต่างกลับบ้านของตัวเองเราโทรศัพท์คุยกัน อีเมล์ถึงกันทุกวัน โดยไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันทุกวัน จนกว่าจะถึงวันศุกร์..."

นี่คือแนวทางการใช้ชีวิตคู่กึ่งอิสระของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง

"งานของฉันต้องการเวลาและการทุ่มเทอย่างมาก คู่ของฉันก็เช่นเดียวกัน ฉันรักเขามากเพราะเขาเข้าใจว่าฉันต้องการเวลาสำหรับทำงาน เวลาสำหรับตัวเองตามลำพังเพื่อครุ่นคิดเรื่องต่าง ๆ และเขาก็ต้องการเวลาเช่นเดียวกับฉัน..."

ก่อนหน้าที่หนุ่มรักงานคนนี้ จะได้พบกับคู่รักคนปัจจุบัน เขาเคยมีคนรักมาก่อน แต่ความรักครั้งนั้นจบลงด้วยต่างคนต่างกล่าวหากันและกัน ว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่รักษาคำมั่นสัญญา และเห็นแก่ตัว

"ผู้หญิงจำนวนมากอาจจะคิดว่าถ้าผู้ชายไม่อยู่กับพวกเธอตลอดเวลา ไม่ร่วมแบ่งปันรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของกันและกัน จะต้องมีอะไรที่ผิดปกติ..."

"เธอเป็นหญิงสาวคนแรก ที่ไม่เพียงแต่เคารพความต้องการเวลาส่วนตัวของผมเท่านั้น แต่เธอยังเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งทีเดียว ผลของมันน่ะหรือครับ ผมยิ่งรู้สึกว่ามีพันธะสัญญากับเธอมากกว่าที่เคยรู้สึกกับผู้หญิงที่ผ่าน เข้ามาในชีวิตทุกคน..."

ความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวคู่นี้ เป็นปรากฏการณ์ใหม่ล่าสุดของการมีความรักใช้ชีวิตร่วมกัน "กึ่งอิสระ" ที่คนรักกันสองคนมีทุกสิ่งทุกอย่างที่คู่สามีภรรยาต้องการ ความรัก เซ็กส์ มิตรภาพและพันธะสัญญา โดยทั้งคู่ไมจำเป็นหรือต้องการเวลาอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมงตลอด 7 วัน

รูปแบบของการมีชีวิตคู่กึ่งอิสระมิได้กำหนดตายตัว เพราะครั้งหนึ่งวูดดี้ อัลเลน กับมีอาร์ ฟาร์โร ยังมีอดีตอันหวานชื่น ทั้งสองคนแยกบ้านกันอยู่คนละฝั่งเซ็นทรัลพาร์ค หรือกรณีที่เดวิค เบ็คเคมและภรรยาแยกกันอยู่ในสเปน ในลอนดอน หรือนิวยอร์ค บรรดาหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ทุกฉบับ ตีปีกประโคมข่าวอย่างเมามันทำนองว่า การแยกกันอยู่คนละแห่งเป็นสัญญานอันตรายของปัญหาชีวิตคู่ ทั้ง ๆ ที่มันคือ "ทิศทางแห่งอนาคตของการแต่งงานในศตวรรษที่ 21"

ค่านิยมการใช้ชีวิตคู่เยี่ยงสามีภรรยาแบบดั้งเดิม ชี้นำให้ทั้งคู่ควรมีพันธะสัญญาต่อกันชนิด เต็มรูปแบบเต็มเวลา จึงจะถือว่าประสบความสำเร็จตามมาตรฐาน"ระดับเหรียญทอง" ในขณะเดียวกันอีกหลายคู่ในหลาย ๆ กรณีก็ดำเนินชีวิตคู่กึ่งอิสระได้อย่างวิเศษเหนือคำว่า "ชีวิตแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ"

"ชีวิตคู่กึ่งอิสระ" ดูจะเป็นทางออกที่ตอบสนองสภาพสังคมและเศรษฐกิจ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เสรีภาพ อิสรภาพ ที่เจริญงอกงามพร้อมกับความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ ของผู้หญิงทำงานรุ่นใหม่ ๆ

"ในปัจจุบันผู้หญิงจำนวนมาก ไม่ได้ฝากชีวิตและอนาคตทางการเงินไว้ในอุ้งมือผู้ชาย รวมทั้งสถานภาพทางสังคมของพวกเธอด้วย...สาวทำงานเก่งเหล่านี้มองเห็นสาระประโยชน์ของการมีชีวิตคู่กึ่งอิสระ"

แนวโน้มชีวิตคู่เทรนด์ใหม่นี้ ยังส่งผลต่อเนื่องไปถึงชั่วโมงการทำงานมากขึ้น ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการทำงานในอังกฤษ อัตราการเกิดของประชากรต่ำลง อายุการเป็นแม่ของลูกคนแรกสูงขึ้น อัตราการหย่าร้างสูงขึ้นและการแต่งงานลดน้อยลง ในความเป็นจริงก็คือความสัมพันธ์ของคนเรามีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเราก็มองหาวิธีการใหม่ ๆ ที่เหมาะสมเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ที่คนเรามีต่อกัน

"ในยุคของคนรุ่นเรา การมีชีวิตคู่แบบผัวเดียวเมียเดียวมีลักษณะต่อเนื่อง สู่การแต่งงานครั้งที่ 2 และปรากฏการณ์เป็น พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว สัมภาระที่พะรุงพะรังในชีวิตคู่ผัวเมียต้องแบกรับ ไม่ว่าจะป็นลูกติดมา หรือทรัพย์สินเงินทองจากการมีสัมพันธ์ครั้งก่อน ๆ น่าจะเป็นสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดชีวิตคู่กึ่งอิสระ..."

ความสัมพันธ์ของชีวิตคู่กึ่งอิสระก็คือ การตรวจสอบความหมายของการอยู่ด้วยกันที่มากกว่าความใกล้ชิด หรือจำนวนเวลาที่คนเราให้กับใครอีกคนหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ให้คำจำกัดความว่า "เป็นความสัมพันธ์แข็งแรงอย่างแท้จริง" ที่คนสองคนยังคงความเป็นปัจเจกของเราไว้ด้วยกัน แจกแจงให้ชัดเจนก็คือ ทั้งคู่สามารถได้รักและได้รับความรักจากกันและกัน โดยไม่จำเป็นต้องพบหน้าอีกฝ่ายหนึ่งตลอดเวลา

บางทีการมี "ชีวิตคู่กึ่งอิสระ" น่าจะเป็นหนทางที่สมบูรณ์แบบในการค่อย ๆ เปิดรับสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างช้า ๆ เพื่อรักษาคนคนหนึ่งให้ทุเลาเบาบาง เมื่อพบว่าสุดปลายแขนที่ยื่นออกไปเพื่อไขว่คว้านั้น ยังมีใครคนหนึ่งที่คุณสามารถไว้วางใจได้ แต่ความสัมพันธ์แบบคู่กึ่งอิสระนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน มันอาจจะเป็นการอยู่ร่วมกันที่แสนวิเศษ เมื่อพันธะสัญญาของแต่ละฝ่ายไปด้วยกันได้ แต่ทันทีที่ใครคนหนึ่งมีความต้องการมากกว่าอีกคนหนึ่ง เมื่อพวกเขาต้องการมีความสัมพันธ์ถาวรขึ้นมา มากกว่าจะรื่นรมย์กับความสัมพันธ์กึ่งอิสระ ประเด็นสำคัญของความสัมพันธ์กึ่งอิสระก็คือ คุณจะต้องติดต่อสัมพันธ์กับสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ ซึ่งมันมีความสำคัญต่อคนสองคนต่างกัน รายละเอียดพวกนี้สามารถขัดขวางความสัมพันธ์คู่แบบอิสระอย่างง่ายดาย

ถ้า "ชีวิตคู่กึ่งอิสระ" สอนให้เรารู้ว่าความสัมพันธ์ที่ดีมีคุณภาพ จะต้องมีเสรีภาพรวมอยู่ด้วย มันก็ควรจะสอนให้เรารู้ว่าการมีอิสระเสรีภาพนั้น หมายถึงความมั่นคงทางจิตใจด้วย และเมื่อทั้งคู่ต้องการความสัมพันธ์ชนิดเต็มรูปแบบหรือกึ่งอิสระ ความรู้สึกมีสิทธิและอิสรภาพก็ติดตามเขาไปด้วย พวกเขายังคงมีชีวิตเป็นของตนเอง มีความสนใจและมีเพื่อน ๆ ของตัวเอง พวกเขาอาจจะหลงรักกันและกันอย่างบ้าคลั่ง และจะมีชีวิตร่วมกันจนชั่วฟ้าดินสลาย แต่พวกเขาจะต้องสงวนความสัมพันธ์กึ่งอิสระนี้ไว้ที่มุมเล็ก ๆ ส่วนตัวด้วย

No comments:

Post a Comment